เปิดเพลงในร้านไม่ผิดลิขสิทธิ์

คำพิพากษาศาลฎีกา:กรณีเปิดเพลงในร้านอาหาร ไม่ผิดลิขสิทธิ์

                 แชร์ให้คนที่ทำร้านค้า  ร้านอาหาร ที่เปิดเพลงในร้าน ได้ทราบว่าเปิดเพลงในร้านไม่ผิดลิขสิทธิ์ 

 

        โจทก์ฟ้อง  และแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย  ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 27, 28, 29, 30, 31, 69, 70, 75, 76     ขอให้ริบโทรทัศน์สี  เครื่องเล่นซีดี   ดีวีดี      และขอให้แผ่นซีดีเพลงจำนวน 19 แผ่น ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย และเป็นของกลางตกเป็นของผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์   และขอให้สั่งจ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ 

      จำเลยให้การรับสารภาพ 

      ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง   พิพากษายกฟ้อง  ของกลางคืนให้แก่เจ้าของ 

      โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา 

     ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ที่โจทก์อุทธรณ์การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 70 วรรคสอง เห็นว่า พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537  มาตรา  31   ซึ่งบัญญัติว่า "ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ ... ( 2 )  เผยแพร่ต่อสาธารณชน....."    ความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าว   จึงต้องเป็นการเผยแพร่งานนั้นต่อสาธารณชน  " เพื่อหากำไร " ซึ่งหมายความว่า    กำไรนั้นหากจำเลยได้มา หรือจะได้มา  จะต้องเกิดจากการกระทำแก่งานที่ได้ทำขึ้น   โดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น    แต่ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องได้ความว่า  จำเลยประกอบกิจการค้าขายอาหารตามสั่ง และเครื่องดื่ม จำเลยเปิดแผ่นวีซีดีเพลง  " กำลังใจที่เธอไม่รู้ " อันเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย ซึ่งได้มีผู้ทำขึ้นหรือดัดแปลงขึ้นให้ลูกค้าในร้านอาหารของจำเลยฟัง  ไม่ปรากฏว่าจำเลยเปิดเพลงเพื่อหากำไรโดยตรงจากการที่ให้ลูกค้าได้ฟังเพลง  โดยการเรียกเก็บค่าตอบแทนจากลูกค้าในการเปิดเพลง  หรือเรียกเก็บเพิ่มรวมไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มแต่อย่างใด  การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537  มาตรา 31 ประกอบมาตรา 70 วรรคสอง เพราะไม่ครบองค์ประกอบความผิดของบทมาตราดังกล่าว  ซึ่งต้องเป็นการกระทำเพื่อหากำไรโดยตรงจากการละเมิดลิขสิทธิ์  แม้จำเลยให้การรับสารภาพ ก็ไม่อาจลงโทษจำเลยได้     ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ  พ.ศ. 2539  มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 วรรคหนึ่ง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว   อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น 

                     พิพากษายืน

               ศาลฎีกาพิพากษายืน  ก็คือ  ให้พิพากษายกฟ้อง

              แสดงว่า    ร้านอาหาร ที่เปิดเพลงในร้าน  เปิดเพลงในร้านไม่ผิดลิขสิทธิ์

เครดิต : ข้อความส่งต่อทางไลน์

 

เพิ่มคอมเมนต์ใหม่


รหัสป้องกันความปลอดภัย
รีเฟรช